10 วิธีแก้อาการเคืองตา ตาแห้ง เพื่อช่วยให้สบายตาขึ้น
icon  icon
วิธีแก้อาการเคืองตา ตาแห้ง

10 วิธีแก้อาการเคืองตา ตาแห้ง เมื่อเจออากาศแห้ง ไม่สบายตา

อาการเคืองตาและตาแห้งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก ๆ จากการใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน รวมถึงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง วิธีแก้อาการเคืองตามีหลายวิธีตั้งแต่การดูแลตัวเองที่บ้าน ไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์ วันนี้เรามีวิธีบรรเทาอาการและการรักษาที่ได้ผลจริงมาฝากกัน

รู้จักอาการเคืองตา ก่อนไปดูวิธีแก้อาการเคืองตา

อาการเคืองตาเป็นภาวะที่ดวงตาเกิดความไม่สบาย มีอาการแสบ แดง คัน รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา มักพบร่วมกับอาการตาแห้งเนื่องจากน้ำตาไม่เพียงพอหรือมีคุณภาพไม่ดี ทำให้ผิวกระจกตาขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ บางรายอาจมีน้ำตาไหลมากผิดปกติ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่พยายามปกป้องดวงตา หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ซึ่งก่อนที่เราจะไปดูว่าวิธีแก้อาการเคืองตามีอะไรบ้าง เราจะพาไปดูสาเหตุกันก่อน 

สาเหตุของอาการเคืองตา ตาแห้ง

อาการเคืองตาและตาแห้งเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เราต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอดิจิทัลเป็นเวลานาน ทำให้อัตราการกะพริบตาลดลงและน้ำตามีการระเหยมากขึ้น นอกจากนี้ ความผิดปกติของเปลือกตาก็เป็นสาเหตุสำคัญ เช่น เปลือกตาปิดไม่สนิท หรือต่อมไขมันในเปลือกตาทำงานผิดปกติ ทำให้น้ำตามีคุณภาพไม่ดี รวมถึงสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้ง ฝุ่นละออง และมลพิษ ก็กระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย บางรายอาจมีอาการจากการแพ้ หรือการใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม

10 วิธีแก้อาการเคืองตา ตาแห้ง

วิธีแก้อาการเคืองตามีหลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ บางวิธีสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แต่บางกรณีอาจต้องพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง เรามาดูวิธีบรรเทาและรักษาอาการที่ได้ผลจริงกัน

1. ใช้น้ำตาเทียม

น้ำตาเทียมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวกระจกตา ทดแทนน้ำตาธรรมชาติที่ไม่เพียงพอ ควรเลือกน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันเสียหรือมีสารกันเสียน้อยที่สุด เพื่อลดการระคายเคือง สามารถหยอดได้บ่อยตามต้องการ โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกตาแห้งหรือไม่สบายตา หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรเลือกน้ำตาเทียมที่สามารถใช้ร่วมกับคอนแทคเลนส์ได้ หรือหยอดก่อนใส่และหลังถอดเลนส์ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาระหว่างน้ำตาเทียมกับเลนส์

2. พักสายตา

โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ควรใช้หลักการ 20-20-20 คือ ทุก ๆ 20 นาที ให้มองไกลออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลาย นอกจากนี้ ควรจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม เช่น ปรับความสว่างของหน้าจอให้พอดี จัดระยะห่างระหว่างตากับหน้าจอประมาณ 50-70 เซนติเมตร และหลีกเลี่ยงการทำงานในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ

3. ล้างตาด้วยน้ำเปล่า

การล้างตาด้วยน้ำสะอาดเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองได้ โดยใช้น้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้องล้างตาเบา ๆ เพื่อชำระสิ่งสกปรกและสารระคายเคืองออกจากดวงตา ควรล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง และระวังไม่ให้น้ำไหลแรงเกินไป นอกจากนี้ สามารถใช้น้ำเกลือล้างตาที่ปราศจากเชื้อแทนน้ำเปล่าได้ เพราะมีความเป็นกลางและไม่ระคายเคืองต่อดวงตา ควรล้างตาเมื่อรู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมหรือหลังจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละออง

4. ประคบร้อนหรือประคบเย็น

การประคบร้อนหรือเย็นให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน การประคบร้อนเหมาะสำหรับอาการตาแห้งที่เกิดจากต่อมไขมันในเปลือกตาอุดตัน โดยความร้อนจะช่วยละลายไขมันและกระตุ้นการหลั่งน้ำมันจากต่อมไขมัน ทำได้โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบเปลือกตาที่ปิดสนิท 5-10 นาที ส่วนการประคบเย็นเหมาะกับอาการตาบวม แดง หรือมีการอักเสบ ความเย็นจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด ควรประคบครั้งละ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง

5. สวมแว่นตากันลมและฝุ่น

การสวมแว่นตาป้องกันเป็นวิธีที่ช่วยลดการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในที่ที่มีลม ฝุ่น หรือแสงแดดจัด ควรเลือกแว่นที่มีกรอบกระชับ สามารถป้องกันลมและฝุ่นได้รอบทิศทาง และมีเลนส์ที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ทั้ง UVA และ UVB ในกรณีที่ต้องขับขี่จักรยานยนต์หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง การสวมแว่นจะช่วยป้องกันดวงตาจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจกระเด็นเข้าตาได้

6. ยาแก้แพ้

ยาแก้แพ้

ยาแก้แพ้เป็นวิธีแก้อาการเคืองตาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ตามฤดูกาลหรือแพ้สิ่งแวดล้อม ยาหยอดตาแก้แพ้จะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการคัน แสบ ระคายเคือง โดยควรเลือกใช้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการดื้อยาหรือมีผลข้างเคียง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และรักษาความสะอาดของสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้ซ้ำ

7. หลีกเลี่ยงคอนแทคเลนส์ที่ใส่แล้วตาแห้ง

การใส่คอนแทคเลนส์อาจทำให้อาการเคืองตาและตาแห้งแย่ลง โดยเฉพาะเมื่อใส่เลนส์ที่ไม่เหมาะสมหรือใส่นานเกินไป ควรเลือกเลนส์ที่มีค่าการซึมผ่านของออกซิเจนสูง และเปลี่ยนน้ำยาล้างเลนส์ใหม่ทุกครั้งที่ใช้ หากรู้สึกไม่สบายตาควรถอดเลนส์ออกทันทีและพักใส่แว่นสายตาแทน นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดเลนส์อย่างถูกวิธี ไม่ใส่เลนส์ขณะว่ายน้ำหรือนอนหลับ และเปลี่ยนเลนส์ใหม่ตามกำหนดเวลา

8. กินอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3

การรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า-3 เป็นวิธีแก้อาการเคืองตาจากภายในสู่ภายนอก เพราะกรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการผลิตน้ำตาที่มีคุณภาพ แหล่งอาหารที่อุดมด้วยโอเมก้า-3 ได้แก่ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน รวมถึงถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดเจีย และน้ำมันมะกอก นอกจากนี้ ควรรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยบำรุงสุขภาพตาและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

9. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การขาดน้ำทำให้ร่างกายผลิตน้ำตาได้น้อยลง ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร โดยแบ่งดื่มตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น ทำให้อาการตาแห้งแย่ลง การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และร่างกายผลิตน้ำตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10. ผ่าตัดชั้นเปลือกตาที่มีปัญหา

การผ่าตัดเป็นวิธีแก้อาการเคืองตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างเปลือกตาที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งเรื้อรัง เช่น เปลือกตาปิดไม่สนิท เปลือกตาหย่อนคล้อย หรือเปลือกตาม้วนเข้าด้านใน การผ่าตัดจะช่วยแก้ไขความผิดปกติของเปลือกตา ทำให้การกระจายของน้ำตาดีขึ้นและลดการระคายเคือง การผ่าตัดมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับปัญหาที่พบ เช่น แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การตัดหนังตาส่วนเกิน หรือผิวหนังที่หย่อนคล้อยออก การผ่าตัดเปลือกตาม้วน หรือการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเปลือกตา ซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

สรุปบทความ

วิธีแก้อาการเคืองตาทำได้ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทำตาสองชั้น

วิธีแก้อาการเคืองตาทำได้ตั้งแต่การดูแลตัวเองที่บ้าน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์ด้วยทำตาสองชั้นกับคลินิกทำตา โดยการเลือกวิธีรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ แต่สิ่งสำคัญคือการดูแลป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่เริ่มมีอาการ แต่สำหรับผู้ที่สนใจปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับตาอื่น ๆ  สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ

ที่มา : -