ทำความรู้จัก Ultra Lift ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย

สาว ๆ ที่อยากมีหน้าเรียว กรอบหน้าชัด ห้ามพลาดกับ Ultra lift นวัตกรรมยกกระชับที่ดีกว่า Hifu ธรรมดา สามารถยิงพลังงานลงลึกได้ถึงผิวหนังชั้น SMAS ด้วยคลื่นอัลตราซาวน์ความเข้มสูง (focus ultrasound) เมื่อส่งพลังงานลงบนชั้นผิวทำให้ชั้นผิวเกิดการหดตัว กระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวที่มีความหย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ริ้วรอยลดลง มีความปลอดภัยสูงและไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ทำให้หน้าเรียวกระชับได้แบบไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวเลยค่ะ 

ข้อดีของ Ultra Lift

• ปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัด ผิวกระชับ

• ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย

• ช่วยให้ใบหน้าอิ่มฟู

• หลังทำไม่บวมช้ำ ไม่เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น

• มีหัวยิงที่หลากหลายตามระดับความลึกของชั้นผิว ทำให้สามารถดูแลปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมและตรงจุด

• เห็นผลการรักษาทันทีหลังทำ 20%

• สามารถอยู่ได้นาน 6 เดือน 

Ultra lift เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีปัญหาเหนียง ใบหน้าหย่อนคล้อย

• มีปัญหาคิ้วตก หนังตาตก

• มีปัญหาร่องแก้ม ริ้วรอย

• มีผิวบริเวณลำคอที่ไม่กระชับ

• ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า เก็บกรอบหน้า หน้าเรียว โดยไม่ต้องการผ่าตัด

ทำไมต้อง Ultra Lift ?

เพราะเป็นเครื่องที่มาพร้อมหัวยิงถึง 7 หัว ตามระดับความลึกของชั้นผิว สามารถยกกระชับผิวได้อย่างครอบคลุม เรียกได้ว่า ครบ จบ ในเครื่องเดียว

• ความลึก 1.5 mm. ยกกระชับผิวชั้นบน ช่วยเรื่องริ้วรอยเล็ก

• ความลึก 2.0 mm. ยกกระชับช่วงหัวคิ้วหัวตาให้ตึงขึ้น

• ความลึก 3.0 mm. ยกกระชับผิวชั้นกลาง ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์

• ความลึก 4.5 mm. ยกระชับผิวชั้น SMAS เป็นชั้นที่ผ่าตัดดึงหน้าโดยเฉพาะ

• ความลึก 6.0-13.0 mm. ยกกระชับลำตัว 

ผลลัพธ์หลังทำ Ultra Lift

ผลการรักษาและความถี่ในการมารับการรักษาขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยและอายุของผู้รับการรักษา โดยส่วนใหญ่จะสามารถเห็นผลการรักษาได้ทันทีหลังทำ 20% และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วง 1-2 เดือนหลังทำ สามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำการรักษาด้วย การหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือปัจจัยอื่นที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยจะทำให้ผลอยู่ได้นานขึ้น 

สำหรับใครที่อยากมีผิวที่กระชับ หน้าเรียว กรอบหน้าชัด Ultra Lift ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและได้ผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้จำนวน shot ที่ใช้ในการรักษาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน เนื่องจากแต่ละคนมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาให้เหมาะกับบุคคลนั้น ๆ ค่ะ