มาสก์ใต้ตากี่นาทีเห็นผล ต้องทำกี่ครั้ง มาสก์แบบไหนถึงจะถูกต้อง

การมาสก์ใต้ตาเป็นวิธีดูแลผิวรอบดวงตาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณใต้ตาที่บอบบางได้อย่างอ่อนโยน แต่หลายคนยังสงสัยว่ามาสก์ใต้ตากี่นาทีถึงจะเห็นผล และควรเลือกแผ่นมาสก์ใต้ตาแบบไหนที่เหมาะกับปัญหาผิว บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยพร้อมแนะนำวิธีการมาสก์ใต้ตาที่ถูกต้องกัน

มาสก์ใต้ตาช่วยอะไรได้บ้าง

การมาสก์ใต้ตาเป็นการดูแลผิวเฉพาะจุดที่มีประสิทธิภาพ โดยวิธีมาสก์ใต้ตาที่ถูกต้องจะช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาได้หลายด้าน ทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และบรรเทาอาการบวมใต้ตา ซึ่งการเลือกแผ่นมาสก์ใต้ตาให้เหมาะกับปัญหาผิวจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ให้ความชุ่มชื้น อิ่มฟู

การมาสก์ใต้ตาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นจะช่วยเติมน้ำให้ผิวบริเวณใต้ตาที่บอบบางและแห้งกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนผสมสำคัญในแผ่นมาสก์ใต้ตาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิก เซราไมด์ และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ จะช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว ทำให้ผิวรอบดวงตาดูอิ่มฟู เปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้าน นอกจากนี้ การมาสก์ใต้ตาอย่างสม่ำเสมอยังช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวชั้นนอก ทำให้ผิวแข็งแรงและมีสุขภาพดีในระยะยาว

ลดริ้วรอย ใต้ตากระชับ

แผ่นมาสก์ใต้ตาที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี และโคเอนไซม์คิวเท็น จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตาได้ดี นอกจากนี้ ส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน เช่น เปปไทด์ และเรตินอล จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับให้กับผิวรอบดวงตา ซึ่งการมาสก์ตากี่นาทีและทำกี่ครั้งต่อสัปดาห์นั้นก็มีผลต่อการลดเลือนริ้วรอยเช่นกัน

ลดอาการบวม

การมาสก์ใต้ตาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติลดการบวมน้ำ เช่น สารสกัดจากชาเขียว คาเฟอีน และสารสกัดจากแตงกวา จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดการคั่งของของเหลวใต้ตาได้ดี โดยเฉพาะการใช้ แผ่นมาสก์ใต้ตาที่แช่เย็น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดบวมได้ดียิ่งขึ้น การมาสก์ใต้ตาใช้ได้กี่ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการบวม แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วิธีมาสก์ใต้ตาแบบถูกต้อง ทำให้เห็นผลเร็ว

วิธีมาสก์ใต้ตาที่ถูกต้องนั้นมีหลายขั้นตอนที่สำคัญ เริ่มตั้งแต่การเตรียมผิวให้พร้อม การเลือกแผ่นมาสก์ใต้ตาที่เหมาะสมกับปัญหาผิว ไปจนถึงเวลาที่ใช้ในการมาสก์ การทำตามขั้นตอนอย่างถูกวิธีจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทำความสะอาดผิวหน้า

ก่อนการมาสก์ใต้ตาการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เริ่มจากการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน เช็ดให้สะอาดด้วยผ้าสะอาด หากแต่งหน้า ควรใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอางที่เหมาะสำหรับผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งตกค้างที่จะขัดขวางการซึมซับของสารสำคัญจากแผ่นมาสก์ใต้ตา จากนั้นซับผิวให้แห้งเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาด ระวังไม่ให้ถูหรือดึงผิวแรงเกินไป

เลือกสูตรมาสก์ใต้ตาที่เหมาะสม

การเลือกแผ่นมาสก์ใต้ตาให้เหมาะกับปัญหาผิวเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรพิจารณาเลือกสูตรที่ตรงกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาตาบวม ริ้วรอย หรือผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น

มาสก์ลดบวม

แผ่นมาสก์ใต้ตาสูตรลดบวมมักมีส่วนผสมของคาเฟอีน สารสกัดจากชาเขียว และแตงกวา ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและช่วยลดการบวมน้ำใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับสูตรนี้ควรอยู่ที่ 15-20 นาที และควรใช้ในตอนเช้าเพื่อลดอาการบวมที่สะสมจากการนอน นอกจากนี้ การแช่แผ่นมาสก์ในตู้เย็นก่อนใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดบวมได้ดียิ่งขึ้น

มาสก์ลดริ้วรอย

สำหรับการมาสก์ใต้ตาเพื่อลดเลือนริ้วรอย ควรเลือกแผ่นมาสก์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ คอลลาเจน วิตามินซี และเรตินอล ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว สำหรับการมาสก์ใต้ตากี่ครั้งต่อสัปดาห์นั้นสูตรนี้จะแนะนำให้ทำ 2-3 ครั้ง และควรทำในตอนกลางคืนเพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ในขณะพักผ่อน

มาสก์ให้ความชุ่มชื้น

แผ่นมาสก์ใต้ตาสูตรให้ความชุ่มชื้นมักมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก เซราไมด์ และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ซึ่งช่วยเพิ่มและรักษาระดับความชุ่มชื้นในผิว การมาสก์ใต้ตาสูตรนี้ควรทำ 15-20 นาที และสามารถทำได้ทั้งเช้าและก่อนนอน โดยมาสก์ใต้ตาใช้ได้กี่ครั้งขึ้นอยู่กับสภาพผิว แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์

วางมาสก์ให้แนบดวงตา

การวางแผ่นมาสก์ใต้ตาให้แนบสนิทกับผิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ผิวได้รับประโยชน์จากสารสำคัญอย่างเต็มที่ เริ่มจากการล้างมือให้สะอาด จากนั้นค่อย ๆ แกะแผ่นมาสก์ออกจากแผ่นรอง วางให้พอดีกับบริเวณใต้ตา โดยให้ขอบด้านบนของแผ่นมาสก์อยู่ใต้ขอบตาล่างพอดี ใช้นิ้วกดเบา ๆ ให้แผ่นมาสก์แนบสนิทกับผิว ระวังไม่ให้เกิดฟองอากาศระหว่างแผ่นมาสก์กับผิว เพราะจะทำให้การซึมซับไม่มีประสิทธิภาพ

นวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

หลังจากวางแผ่นมาสก์ใต้ตาเรียบร้อยแล้ว การนวดเบา ๆ รอบดวงตาจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพการซึมซับของสารสำคัญ ใช้นิ้วนางซึ่งเป็นนิ้วที่มีแรงกดน้อยที่สุดนวดวนเป็นวงกลมเบา ๆ จากหัวตาไปหางตา ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ระวังไม่ใช้แรงกดมากเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวบอบบางบริเวณใต้ตาเกิดการระคายเคืองได้

ทิ้งมาสก์ตามเวลาที่เหมาะสม

การมาสก์ใต้ตากี่นาทีเป็นคำถามที่พบบ่อย โดยทั่วไปแนะนำให้ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินกว่าที่ระบุบนฉลาก เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ สำหรับมาสก์ใต้ตากี่ครั้งต่อสัปดาห์นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและชนิดของแผ่นมาสก์ โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์

สูตรมาสก์ใต้ตาจากธรรมชาติ

นอกจากแผ่นมาสก์ใต้ตาสำเร็จรูป การทำมาสก์จากวัตถุดิบธรรมชาติก็เป็นอีกทางเลือกที่ประหยัดและปลอดภัย โดยสามารถเลือกส่วนผสมที่มีคุณสมบัติตรงกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข ทั้งการลดบวม เพิ่มความชุ่มชื้น หรือลดเลือนริ้วรอย

สูตรแตงกวาและโยเกิร์ต

แตงกวามีคุณสมบัติในการลดการบวมน้ำและให้ความเย็นสดชื่น ในขณะที่โยเกิร์ตมีกรดแลคติกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน วิธีทำเริ่มจากการปั่นแตงกวาสดให้ละเอียด ผสมกับโยเกิร์ตไม่มีน้ำตาลในอัตราส่วน 1:1 คนให้เข้ากัน นำไปแช่เย็น 10 นาที จากนั้นใช้สำลีชุบส่วนผสมวางบริเวณใต้ตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

สูตรชาเขียวและน้ำผึ้ง

ชาเขียวอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ส่วนน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและต้านการอักเสบ วิธีทำโดยผสมผงชาเขียวกับน้ำผึ้งธรรมชาติในอัตราส่วน 1:2 คนให้เข้ากันจนได้เนื้อครีม ทาบริเวณใต้ตาและทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

สูตรว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นสูงและช่วยลดการอักเสบได้ดี วิธีทำโดยแกะเนื้อว่านหางจระเข้สดมาบดให้ละเอียด หรือใช้เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ นำไปแช่เย็น 15 นาที จากนั้นใช้สำลีชุบเจลวางบริเวณใต้ตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สามารถทำได้ทุกวันเนื่องจากเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว

สูตรอัลมอนด์และน้ำมันมะพร้าว

อัลมอนด์อุดมด้วยวิตามินอีและโอเมก้า 3 ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวและต้านการอักเสบ วิธีทำโดยบดอัลมอนด์ให้ละเอียด ผสมกับน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ในอัตราส่วน 2:1 คนให้เข้ากัน นำมาทาบริเวณใต้ตาเบา ๆ นวดเป็นวงกลมประมาณ 1-2 นาที ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

สูตรถั่วเขียวบดและนมสด

ถั่วเขียวมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวและให้ความชุ่มชื้น ส่วนนมสดมีกรดแลคติกที่ช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน วิธีทำโดยนำถั่วเขียวบดละเอียดผสมกับนมสดในอัตราส่วน 1:1 คนให้เข้ากันจนได้เนื้อครีม นำมาทาบริเวณใต้ตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

วิธีทำให้ใต้ตาดูกระชับ อิ่มฟู ดูไม่เหนื่อย

นอกจากการมาสก์ใต้ตาแล้ว ยังมีวิธีการดูแลและรักษาผิวใต้ตาให้ดูกระชับ อิ่มฟูด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยาวนานกว่าการใช้แผ่นมาสก์ใต้ตาเพียงอย่างเดียว แต่ละวิธีมีข้อดีและความเหมาะสมกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน

ฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการเติมเต็มร่องลึกใต้ตาที่ได้ผลรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง โดยแพทย์จะฉีดสารไฮยาลูโรนิกที่มีความบริสุทธิ์สูงเข้าไปในชั้นผิวใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิว ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการตอบสนองของแต่ละบุคคล การฉีดฟิลเลอร์ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

เทคโนโลยียกกระชับ

เทคโนโลยียกกระชับผิวรอบดวงตา เช่น อัลทร้าซาวด์ เรดิโอฟรีเควนซี่ หรือเลเซอร์ สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวรอบดวงตาแน่นกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น การรักษานี้ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ผ่าตัดถุงใต้ตา

การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวรที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากไขมันส่วนเกินหรือผิวหย่อนคล้อย แพทย์จะทำการกำจัดไขมันส่วนเกิน ตัดผิวหนังส่วนเกิน และจัดเรียงกล้ามเนื้อใหม่ให้กระชับขึ้น การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์

สรุปบทความ

การมาสก์ใต้ตาเป็นวิธีดูแลผิวรอบดวงตาที่ทำได้ง่ายและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แผ่นมาสก์ใต้ตาสำเร็จรูปหรือสูตรธรรมชาติ โดยควรมาสก์ใต้ตา 15-20 นาที ทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หรือจะลองลดใต้ตาบวมฟื้นฟูใต้ตาให้ดีขึ้นกับคลินิกทำตาที่ไว้วางใจก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ