ตากุ้งยิงก้อนแดงบวม เจ็บ และอาจมีหนองสะสม เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่ไม่ต้องกังวลใจถ้าเราสงสัยว่าตากุ้งยิงเกิดจากอะไรและตากุ้งยิงรักษาอย่างไรก็สามารถทำให้ตากุ้งยิงหายเร็วขึ้นได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการรักษาตากุ้งยิงที่ถูกต้อง เพื่อให้หายจากอาการได้อย่างรวดเร็วกัน
ตากุ้งยิงเป็นการอักเสบเฉพาะที่ของต่อมไขมันในเปลือกตา ทำให้เกิดก้อนแดง บวม เจ็บ และอาจมีหนองสะสมอยู่ภายใน โดยสามารถเกิดได้ทั้งเปลือกตาบนและล่าง มักพบในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดสะสม โดยตากุ้งยิงแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดหัวผุด (ภายนอก) และชนิดหัวหลบใน (ภายใน) ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน
ตากุ้งยิงชนิดหัวผุดเป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่อยู่บริเวณขอบเปลือกตาด้านนอก มักเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันและมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้เกิดการอักเสบและบวมแดง มองเห็นเป็นจุดนูนแดงชัดเจนบริเวณขอบตา อาจมีอาการเจ็บเมื่อกะพริบตาหรือสัมผัส และเมื่อมีการสะสมของหนอง จะเห็นเป็นจุดสีเหลืองที่ปลายก้อน ชนิดนี้มักมีอาการปวดและระคายเคืองมากกว่าชนิดหัวหลบใน เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งที่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกโดยตรง
ตากุ้งยิงชนิดหัวหลบในเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันที่อยู่ด้านในของเปลือกตา ทำให้เกิดก้อนบวมแดงที่มองเห็นได้ไม่ชัดเจนจากภายนอก แต่จะรู้สึกเจ็บและระคายเคืองเมื่อกะพริบตา เนื่องจากก้อนที่บวมจะเสียดสีกับกระจกตา การอักเสบชนิดนี้มักใช้เวลารักษานานกว่าชนิดหัวผุด เพราะการระบายหนองทำได้ยากกว่า และต้องระวังไม่ให้เกิดการกดทับกระจกตาจนเกิดการระคายเคือง หรือมีการติดเชื้อลุกลามเข้าสู่เนื้อเยื่อข้างเคียง
จะรู้สึกคันและระคายเคืองบริเวณเปลือกตา ต่อมาจะเริ่มมีอาการปวดตุบ ๆ และรู้สึกเจ็บเมื่อกะพริบตา เปลือกตาจะเริ่มบวมแดงและมีจุดนูนแดงเล็ก ๆ เกิดขึ้น หากเป็นชนิดหัวผุดจะเห็นจุดนูนชัดเจนบริเวณขอบตา แต่ถ้าเป็นชนิดหัวหลบในอาจสังเกตเห็นเพียงอาการบวมของเปลือกตา เมื่อมีการสะสมของหนอง จะมีจุดสีเหลืองปรากฏที่ปลายก้อน บางรายอาจมีน้ำตาไหลมากกว่าปกติ ตาแดง และอาจรู้สึกไม่สบายตาเมื่อต้องใช้สายตาเป็นเวลานาน ในบางกรณีอาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือต่อมน้ำเหลืองบริเวณใบหน้าบวมร่วมด้วย
ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของต่อมไขมันในเปลือกตา โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อ การอุดตันของต่อมไขมัน หรือพฤติกรรมการดูแลดวงตาที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งแต่ละสาเหตุมีกลไกการเกิดโรคที่แตกต่างกัน ดังนี้
ต่อมไขมันในเปลือกตามีหน้าที่ผลิตน้ำมันเพื่อหล่อลื่นดวงตา เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไปหรือมีการอุดตัน จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันภายในต่อม ส่งผลให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมา โดยเฉพาะในคนที่มีผิวมัน เป็นสิว หรือมีภาวะต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ นอกจากนี้ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และภูมิต้านทานต่ำ ก็เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานผิดปกติได้
เปลือกตาอักเสบเป็นภาวะที่ขอบตาเกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีอาการคัน แสบ ระคายเคือง และมีขุยขาว ๆ เกาะที่ขนตา เมื่อเป็นเรื้อรังจะทำให้ต่อมไขมันในเปลือกตาอุดตันและอักเสบง่าย นำไปสู่การเกิดตากุ้งยิงได้ โดยเฉพาะในคนที่มีอาการแพ้ง่าย เป็นภูมิแพ้ หรือใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดตากุ้งยิงซ้ำได้บ่อย ๆ
มือของเรามักสัมผัสสิ่งสกปรกและเชื้อโรคมากมายในแต่ละวัน เมื่อนำมาสัมผัสดวงตาโดยไม่ล้างมือให้สะอาด จะทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ต่อมไขมันในเปลือกตาและก่อให้เกิดการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดตากุ้งยิงนอกจากนี้ การขยี้ตาแรง ๆ ยังอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบดวงตา ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
เครื่องสำอางที่ตกค้างจะอุดตันต่อมไขมันในเปลือกตา ทำให้เกิดการสะสมของไขมันและเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ การใช้เครื่องสำอางหมดอายุ การใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น หรือการใช้อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด ก็เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อและเกิดตากุ้งยิงได้ โดยเฉพาะมาสคาร่าและอายไลเนอร์ที่สัมผัสกับขอบตาโดยตรง ควรทำความสะอาดให้หมดจดและเปลี่ยนใหม่เมื่อครบกำหนดอายุการใช้งาน
สามารถหายเองได้ภายใน 7-10 วัน หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง แต่ระยะเวลาการหายขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งที่เกิด โดยตากุ้งยิงชนิดหัวผุดมักหายเร็วกว่าชนิดหัวหลบใน เนื่องจากหนองสามารถระบายออกได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรง เช่น ปวดมาก บวมมาก มีไข้ หรือต่อมน้ำเหลืองบวม ควรรีบพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือการติดเชื้อลุกลามได้ นอกจากนี้ หากเป็นตากุ้งยิงบ่อย ๆ ควรตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่ต้นเหตุเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
ตากุ้งยิงรักษาได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะของโรค ในกรณีที่เป็นไม่มาก เราสามารถดูแลรักษาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองที่บ้าน แต่หากมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เช่น การให้ยาปฏิชีวนะหรือการเจาะระบายหนอง ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
เริ่มจากการประคบอุ่นบริเวณที่เป็นตากุ้งยิงวันละ 4-5 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและกระตุ้นให้หนองรวมตัวเร็วขึ้น ระหว่างวันควรทำความสะอาดขอบตาด้วยน้ำเกลือหรือแชมพูสำหรับเด็ก เช็ดเบา ๆ ด้วยสำลีสะอาด หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือบีบก้อนตากุ้งยิง เพราะอาจทำให้การอักเสบลุกลามได้ นอกจากนี้ ควรพักการใช้คอนแทคเลนส์และงดแต่งหน้าบริเวณดวงตาจนกว่าอาการจะดีขึ้น
เมื่อมาพบจักษุแพทย์จะได้รับการตรวจประเมินความรุนแรงและตำแหน่งของตากุ้งยิง หากเป็นระยะแรกที่ยังไม่มีหนอง แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดทาหรือชนิดรับประทาน ร่วมกับยาลดการอักเสบ แต่หากมีหนองสะสมมาก แพทย์อาจพิจารณาเจาะระบายหนองออก ซึ่งเป็นหัตถการที่ทำในห้องตรวจ ใช้เวลาไม่นาน และช่วยให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหลังทำหัตถการอาจได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
เริ่มจากการแจ้งประวัติการแพ้ยาชาหรือยาอื่น ๆ ให้แพทย์ทราบ งดใส่คอนแทคเลนส์และเครื่องสำอางบริเวณดวงตาในวันที่มาทำหัตถการ ควรมาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดเพื่อซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้น หากมีโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพราะอาจต้องหยุดยาก่อนทำหัตถการ นอกจากนี้ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนมาพบแพทย์ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการรักษา
หลังเจาะตากุ้งยิงเราต้องดูแลแผลให้สะอาดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยหลังทำหัตถการอาจมีอาการปวดหรือระคายเคืองเล็กน้อย ให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมในวันแรก หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น ทำความสะอาดตาด้วยน้ำเกลือตามที่แพทย์สั่ง หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือสัมผัสบริเวณที่เจาะ งดใช้เครื่องสำอางและคอนแทคเลนส์จนกว่าแผลจะหายสนิท ควรมาตรวจติดตามผลตามนัด และหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก บวมมาก หรือมีไข้ ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
ตากุ้งยิงเป็นการอักเสบของต่อมไขมันในเปลือกตาที่พบได้บ่อย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการติดเชื้อ การอุดตันของต่อมไขมัน หรือพฤติกรรมการดูแลดวงตาที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าตากุ้งยิงจะสามารถหายเองได้หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง แต่ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องพบจักษุแพทย์ที่คลินิกทำตาเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม แต่สำหรับผู้ที่สนใจปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับตาอื่น ๆ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ