ขยี้ตาบ่อย ๆ สาเหตุทำให้หน้าแก่ หนังตาหย่อนคล้อย
icon  icon
ขยี้ตาบ่อยทำให้หนังตาหย่อนคล้อย

ขยี้ตาบ่อย ๆ ทำให้หนังตาหย่อนคล้อย สาเหตุของการดูหน้าแก่

การขยี้ตาบ่อยเป็นพฤติกรรมที่หลายคนทำโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่รู้สึกง่วง เมื่อยตา หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา แต่การขยี้ตาบ่อย ๆ นั้นส่งผลเสียต่อผิวรอบดวงตาที่บอบบางมากกว่าที่คิด ทำให้เกิดปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย ริ้วรอย และความเสื่อมของกล้ามเนื้อตาได้


ขยี้ตาบ่อย ๆ ส่งผลเสียอย่างไร

การขยี้ตาเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพดวงตาในหลายด้าน โดยเฉพาะผิวรอบดวงตาที่บอบบางและมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าส่วนอื่นของใบหน้า การขยี้บ่อย ๆ จะทำให้เกิดแรงกดและการดึงรั้งผิวมากเกินไป ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา


เกิดริ้วรอยก่อนวัย

การขยี้ตาบ่อยจะทำให้เกิดแรงกดและดึงรั้งผิวรอบดวงตาที่บอบบาง ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เมื่อเราขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดริ้วรอยตีนกา รอยย่นรอบดวงตา และถุงใต้ตาก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ การขยี้ตายังทำให้ผิวหนังรอบดวงตาบางลง เกิดการยืดตัวและหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าอายุจริง


ชั้นตาไม่เท่ากัน

การขยี้ตาด้วยแรงที่ไม่เท่ากันในแต่ละข้างหรือขยี้บ่อยเฉพาะข้างใดข้างหนึ่ง อาจทำให้เกิดปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน เนื่องจากการขยี้ตาส่งผลต่อการยืดตัวของผิวหนังและกล้ามเนื้อรอบดวงตา ทำให้ชั้นตาเปลี่ยนแปลง บางคนอาจพบว่าตาข้างที่ขยี้บ่อยมีชั้นตาที่ลึกกว่าหรือหย่อนคล้อยกว่าอีกข้าง ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมมาตรและเสียความมั่นใจได้


กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

เมื่อเกิดการขยี้ตาบ่อย ๆ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อยกเปลือกตา (Levator muscle) เกิดการอ่อนล้าและอ่อนแรง ทำให้หนังตาตก มองไม่ชัด และอาจต้องเงยหน้าหรือยกคิ้วช่วยในการมองเห็น นอกจากนี้ การขยี้บ่อยยังอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทและหลอดเลือดเล็ก ๆ รอบดวงตา ส่งผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อตาผิดปกติในระยะยาว


ตาคล้ำ

การขยี้ตาบ่อยทำให้เกิดการแตกของหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังรอบดวงตา ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำและวงเขียวใต้ตา นอกจากนี้ การขยี้ตาด้วยแรงมากเกินไปยังทำให้เม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังแตกกระจาย ทำให้เกิดจุดด่างดำและความไม่สม่ำเสมอของสีผิวรอบดวงตา อีกทั้งการขยี้บ่อยยังกระตุ้นการอักเสบของผิวหนัง ทำให้เกิดการคั่งของเลือดและทำให้รอยคล้ำใต้ตาเด่นชัดขึ้น


ตาปรือ

การขยี้ตาทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรง ส่งผลให้เกิดอาการตาปรือ ซึ่งเป็นภาวะที่หนังตาบนตกลงมาปิดบังการมองเห็นบางส่วน เมื่อเราขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อยกหนังตาทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ดวงตาดูเล็กลง มองเห็นไม่ชัดเจน และอาจต้องพยายามเปิดตากว้างมากขึ้นเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน


วิธีดูแลดวงตา ลดความหย่อนคล้อย

วิธีดูแลดวงตาเพื่อลดความหย่อนคล้อย

การดูแลผิวรอบดวงตาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยชะลอความเสื่อมและป้องกันปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อดวงตา เช่น การขยี้ตาพร้อมทั้งเสริมการดูแลด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ผิวรอบดวงตาแข็งแรงและมีสุขภาพดี


หลีกเลี่ยงการขยี้ตาบ่อย ๆ

เมื่อรู้สึกระคายเคืองตาหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา แทนที่จะขยี้ตา ควรใช้น้ำเกลือล้างตาหรือน้ำสะอาดล้างตาแทน การขยี้บ่อยจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น หากมีอาการคันตาควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ควรฝึกสังเกตและควบคุมพฤติกรรมการขยี้ตาโดยเฉพาะในช่วงที่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือง่วงนอน อาจใช้วิธีกะพริบตาแทนเพื่อให้ดวงตาได้พักและชุ่มชื้น


ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา

การเลือกใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินและสารบำรุงที่เหมาะสม เช่น วิตามินอี วิตามินซี และเปปไทด์ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวรอบดวงตา ควรทาครีมบำรุงเบา ๆ โดยใช้นิ้วนางแตะเนื้อครีมแต้มเป็นจุด ๆ แล้วแตะเบา ๆ รอบดวงตา หลีกเลี่ยงการดึงหรือรูดผิว ทาเป็นประจำทั้งเช้าและก่อนนอนเพื่อช่วยป้องกันและลดการเกิดริ้วรอย


นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพจะช่วยให้ดวงตาได้พักและฟื้นฟู ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ใช้หมอนที่มีความสูงพอเหมาะเพื่อป้องกันการบวมน้ำใต้ตา หลีกเลี่ยงการดูหน้าจอก่อนนอนเพื่อลดความเครียดของดวงตา และพยายามนอนในท่าที่ศีรษะสูงกว่าลำตัวเล็กน้อยเพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือดรอบดวงตา


ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวันช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา ป้องกันการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เมื่อร่างกายได้รับน้ำเพียงพอจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดการบวมน้ำใต้ตา และช่วยให้สารพิษถูกขับออกจากร่างกายได้ดี นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและส่งผลต่อผิวรอบดวงตา


การศัลกรรมวิธีแก้หนังตาเหี่ยวเร่งด่วน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยรุนแรงจากการขยี้ตาบ่อย การผ่าตัดศัลยกรรมอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยแพทย์จะประเมินสภาพผิวและความรุนแรงของปัญหา จากนั้นเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม เช่น การทำตาสองชั้น การเปิดหัวตา หรือการยกกระชับหนังตา การผ่าตัดจะช่วยแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จัดการกับผิวหนังส่วนเกิน และปรับโครงสร้างรอบดวงตาให้กลับมาแข็งแรงและสวยงาม


สรุปบทความ

หลีกเลี่ยงการขยี้ตาและดูแลผิวจะช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย

การขยี้ตาบ่อยเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยและริ้วรอยก่อนวัย การเข้าใจถึงผลเสียและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการขยี้ตา พร้อมทั้งดูแลผิวรอบดวงตาอย่างถูกวิธีจะช่วยชะลอความเสื่อมและรักษาความสวยงามของดวงตาได้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ

ที่มา : -